ภัยคุกคาม (Threat)
ภัยคุกคาม (Threat) คือ วัตถุ สิ่งของ ตัวบุคคลหรือสิ่งอืนใด เป็นตัวแทนของการทำอันตรายต่อทรัพย์สิน เช่น ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นโดยเจตนา, ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้เจตนา, ภัยคุกคามที่สามารถทำลายช่องโหว่สร้างความเสียหายแก่ระบบได้
ประเภทของภัยคุกคาม
1. ความผิดพลาดที่เกิดจากบุคคล
- เป็นความผิดพลาดที่เกิดจากพนักงานหรือบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงสารสนเทศขององค์
- อาจเกิดจากความไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากไม่มีประสบการณ์ หรือขาดการฝึญญากอบรม หรือคาดเดา เป็นต้น
2. ภัยร้ายต่อทัพย์สินทางปัญญา
ทรัพย์ทางปัญญา (Intellectual Property) คือ ทรัพย์สินที่จับต้องไม่ได้ ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยบุคคลหรือองค์กรใดๆ หากต้องการนำทรัพย์สินทงปัญญาของผู้อื่นไปใช้ อาจต้องเสียค่าใช้จ่าย
การให้สิทธิในความเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา มี 4 ประเภท คือ
- ลิขสิทธิ์ (Copyrights)
- ความลับทางการค้า (Trade Secrets)
- เครื่องหมายการค้า (Trade Marks)
- สิทธิบัตร (Patents)
3. การจารกรรมหรือการรุกล้ำ
- การจารกรรม (Espionage) เป็นการที่กระทำซึ่งใช้อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ หรือบุคคลในการจารกรรมสารสนเทศที่เป็นความลับ และรวบรวมสารสนเทศนั้นโดยไม่รับอนุญาต
- การรุกล้ำ (Trespass) การกระทำที่ทำให้ผู้อื่นสามารถเข้าสู้ระบบเพื่อรวบรวมสารสนเทศที่ต้องการโดยไม่ได้รับอนุญาต
4. การกรรโชกสารสนเทศ
- การที่ผู้ขโมยข้อมูลหรือสารสนเทศที่เป็นความลับจากคอมพิวเตอร์ แล้วต้องการเงินเป็นค่าตอบแทน เพื่อแลกกับการคืนสารสนเทศนั้น
5. การทำลายหรือทำให้เสียหาย
- เป็นการทำลายหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบคอมพิวเตอร์เว็บไซต์ ภาพลักษณ์ ธุรกิ และทรัพย์สินขององค์กร อาจเกิดจากผู้อื่นที่ไม่หวังดีหรือแม้กระทั่งพนักงานขององค์กรเอง
6. การลักขโมย
- การถือเอาของผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย เช่น อุปกรณ์ต่างๆ แล้วยังรวมถึงสารสนเทศขององค์กร และทรัพย์สินทางปัญญาอื่นๆ
7. ซอฟต์แวร์โจมตี
- เกิดจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลออกแบบซอฟต์แวร์ให้ทำหน้าที่โจมตระบบ เรียกว่า Malicious Code
- มัลแวร์ (Malware) ถูกออกแบบเพื่อสร้างความเสียหาย ทำลาย หรือระงับการให้บริการระบบเป้าหมาย เช่น Virus , Worm , Zombie เป็นต้น
8. ภัยธรรมชาติ
- ภัยธรรมชาติต่างๆ สามารถสร้างความเสียหายให้กับสารสนเทศขององค์กรได้ หากไม่มีการป้องกันหรือวางแผนรับมือกับภัยธรรมชาติ อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่องค์กรได้อย่างมหาศาล
- Contingency Plan ประกอบด้วย
- ข้อปฏิบัติในการฟื้นฟูจากภัยพิบัติ
- การดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในสถานการณ์คับขัน
- การรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด
ช่องโหว่ (Vulnerabilities)
ความอ่อนแอของระบบคอมพิวเตอร์ หรือระบบเครือข่ายที่เปิดโอกาสให้สิ่งที่เป็นภัยคุกคามสามารถเข้าถึงสารสนเทศในระบบได้ซึ่งจะนไปสู่ความเสียหายแก่สารสนเทศ หรือแม้แต่การทำงานของระบบ
ตัวอย่างช่องโหว่ที่เกิดขึ้นในระบบ
- การจัดการบัญชีรายชื่อผู้ใช้ไม่มีประสิทธิภาพ (User Account Management Process)
- ระบบปฏิบัติการไม่ได้รับการซ่อมเสริมอย่างสม่ำเสมอ
- ไม่มีการอัพเดทไวรัสอย่างสม่ำเสมอ
- การปรับแต่งคุณสมบัติ ระบบผิดพลาด
การโจมตี (Attack)
การกระทำบางอย่างที่อาศัยความได้เปรียบจากช่องโหว่ของระบบ เพื่อเข้าควบคุมการทำงานของระบบเพื่อให้ระบบเกิดความเสียหาย หรือเพื่อโจมกรรมสารสนเทศ
รูปแบบของการโจมตี
- Malicious Code หรือ Malware โค๊ดมุ่งร้ายหรืออันตราย อันได้แก่ Virus, Trojan
รูปแบบการโจมตีของ Malicious Code
- สแกนหมายเลย IP Address
- ท่องเว็บไซต์ระบบที่มี Malicious ฝังตัวอยู่
- Virus โดยคัดลอกตัวเองไปอยู้กับโปรแกรมที่ผู้ใช้รันโปรแกรมนั้นๆ
- E-mail โดยการส่งอีเมล์ที่มี Malicious Code ซึ่งทันทีที่เปิดก็จะทำงาน
2. Hoaxes การปล่อยข่าวหลอกลวง เช่น ปล่อยข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสคอมพิวเตอร์ทางแมล์ ยังได้แนบโปรแกรมไวรัสไปด้วย
3. Back door หรือ Trap Door เส้นทางลับที่ช่วยผู้โจมตีหรือผู้บุกรุกเข้าสู้ระบบโดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบ
4. Password Cracking การบุกรุกเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ใดๆ โดยใช้วิธีการเจาะรหัสผ่าน เริ่มจากคัดลอกไฟล์ SAM แล้วทำการถอดรหัส จนกว่าจะได้รหัสผ่านที่ถูกต้อง
5. Brute Force Attack เป็นการพยายามคาดเดารหัสผ่านโดยการนำคีย์ที่เป็นไปได้ทั้งหมดมาจัดหมวดหมู่ การคาดเดารหัสผ่านจะเป็นการคำนวณซ้ำหลายๆ รอบ เพื่อให้ได้กลุ่มรหัสผ่านที่ถูกต้อง
6. Denial Of Service การปฏิเสธการให้บริการของระบบ เป็นการโจมตีโดยวิธีการส่งข้อมูลจำนวนมากไปยังเป้าหมาย ทำให้แบรนด์วิดธ์เต็มจนไมาสามารถให้บริการได้
จากคลิปวิดีโอ
ไวรัสคอมพิวเตอร์ คือ สิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาทำลายระบบคอมพิวเตอร์ จนทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานผิดปกติ
โปรแกรมป้องกันไวรัส ปัจจุบันมีโปรแกรมป้องกันไวรัสให้เลือกใช้มากมายแต่จุดมุ่งหมายหลักของโปรแกรมป้องกันไวรัสเพื่อยับยั่งและกำจัดไวรัส โปรแกรมป้องกันไวรัสมีทั้ง Freeware และโปรแกรมที่ซื้อ แต่โดยมากโปรแกรมที่ต้องเสียเงินซื้อจะมีคุณภาพมากกว่าโปรแกรม Freeware
วิธีการดูคอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัส
โปรแกรมป้องกันไวรัส ปัจจุบันมีโปรแกรมป้องกันไวรัสให้เลือกใช้มากมายแต่จุดมุ่งหมายหลักของโปรแกรมป้องกันไวรัสเพื่อยับยั่งและกำจัดไวรัส โปรแกรมป้องกันไวรัสมีทั้ง Freeware และโปรแกรมที่ซื้อ แต่โดยมากโปรแกรมที่ต้องเสียเงินซื้อจะมีคุณภาพมากกว่าโปรแกรม Freeware
วิธีการดูคอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัส
- การทำงานของคอมพิวเตอร์ช้ากว่าปกติ
- คอมพิวเตอร์หยุดทำงานโดยไม่รู้สาเหตุ
- ข้อมูลบางอย่างหายไปหรือข้อมูลบางอย่างเพิ่มขึ้นเอง
- ตัวเครื่องรีสตาร์เอง แป้นพิมพ์ทำงานผิดปกติ
วิธีป้องกัน
- อย่าเปิดอ่านอีเมล์แปลกๆ
- สแกนไฟล์ทุกครั้งก่อนดาวน์โหลดไฟล์ทุกประเภท
- อัพเดทโปรแกรมไวรัส
- หมั่นตรวจสอบคอมพิวเตอร์เสมอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น